ความรู้เรื่องการแต่งงาน เคล็ดลับการครองเรือน

จะแต่งงานดีไหม?มีคำตอบ - แต่งงานกันไหม ตอน 2

แต่งงานดีไหม

โดยสรุปในเรื่องแต่งงานดีไหมก็คือ การแต่งงานไม่ใช่เรื่องจำเป็นว่าต้องแต่ง ถ้าเราสามารถดูแลตัวเองได้ หาเลี้ยงตัวเองได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอาชีพทำ จะช่วยตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งผู้ชายเหมือนสมัยโบราณ ผู้หญิงสามารถอยู่คนเดียวได้อย่างมีความสุขในสมัยนี้ แต่ถ้าสามารถเลือกคู่ได้ดีได้เหมาะสมที่จะมาร่วมชีวิตร่วมเดินทางชีวิตด้วยกัน มาช่วยกัน มาเป็นเพื่อนกัน ก็จะเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี ที่มีความสุขได้มากๆ เหมือนกัน ฉะนั้นการคิดจะแต่งงานต้องคิดคำนึงให้รอบด้าน ให้รอบคอบ โดยมีหลักอยู่ว่าถ้าแต่งงานแล้วชีวิตไม่ได้ง่ายขึ้น ไม่ได้ “กำไร” ชีวิต แต่จะมีภาระและความลำบากมากขึ้นรออยู่ข้างหน้าละก็ จงอย่าแต่ง โดยเฉพาะผู้หญิงซึ่งสังคมบ้านเรายังอาจจะกลัวถูกกล่าวหาว่าหาคู่ไม่ได้ ไม่มีใครต้องการ และถูกตราหน้าว่า “ขึ้นคาน” ก็ให้คิดว่าอยู่บนคานทองรับลมชมวิวสบายใจดีกว่า อย่าลงมาแบกขื่อเลย ซึ่งตรงกับที่โบราณได้กล่าวไว้แล้วด้วยว่า “แม้แผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย อย่ามีคู่เสียเลยจะดีกว่า” ตรงข้ามกับฝ่ายชายที่ค่อนข้างได้เปรียบกว่าฝ่ายหญิง เพราะมีงานวิจัยว่าผู้ชายที่แต่งงานมักมีสุขภาพจิตดีขึ้นหรือมีความสุขมากกว่าชายโสด ส่วนผู้หญิงกลับพบว่าหลังแต่งงานอาจมีสุขภาพจิตลดถอยลงหรือมีความสุขน้อยลง ฉะนั้นจึงต้องใคร่ครวญตัดสินใจให้ดีๆ ก่อนแต่งงาน

 

อยู่เป็นโสดจะอยู่อย่างไรดี?

คนสมัครใจอยู่เป็นโสดมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมที่พัฒนาแล้ว ในสังคมเมืองใหญ่ๆ ซึ่งคนมีการศึกษามากขึ้นทั้งชายและหญิง ทำให้ตัวเองใช้ช่วงชีวิตยาวนานไปในการศึกษาหาความรู้ และหลังจากเรียนจบมาแล้วต้องทำงานหนักเพราะมีการแข่งขันกันมาก คนไม่มีผลงานอาจถูกคัดออก หรืออาจไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เรียกว่าใครอยู่ข้างหลังอาจถูกทิ้งไปแล้วยังต้องต่อสู้กับกระแสโลกที่ผลักดันให้คนนิยมชมชื่นกับวัตถุและเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งต้องใช้เงินมาก จึงต้องยิ่งทำงานมากเพื่อหาเงินมากๆ เพื่อมาบริโภควัตถุราคาแพงต่างๆ เช่น บ้านหลังใหญ่ๆ รถราคาแพง โทรศัพท์มือถือรุ่นแพงๆ คอมพิวเตอร์ และอื่นๆ อีกจนกล่าวไม่หมด จึงทำให้หนุ่มสาววัยทำงานมีเวลาน้อยลงสำหรับนึกถึงชีวิตคู่ ไม่มีเวลาไปมองหาคู่ครองที่เหมาะสมกับตัวเอง ซ้ำบางคนไม่อยากมีภาระผูกมัดกับใคร อยากเป็นอิสระจะได้คล่องตัวในการทำงานได้เต็มที่ ไม่ว่าจะทำงานจนดึกดื่น หรือต้องเดินทางบ่อยๆ เพราะการงาน จะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อีกทั้งสามารถไปทำสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ หรือสามารถใช้เงินที่หามาได้เต็มที่คนเดียวไม่ต้องแบ่งปันให้ครอบครัวเช่น บางคน จะสะสมวัตถุที่ตัวเองชอบ ไปท่องเที่ยว ไปเล่นกีฬา ไปไล่ซื้อเครื่องมือเครื่องใช้อุปกรณ์ให้ทันสมัยเสมอ เช่น รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องเสียง โดยคิดว่าเป็นวิธีหาความสุขอย่างหนึ่ง บางคนอาจกลัวจะเป็นคนไม่ทันสมัยถ้าไม่ได้ใช้ของรุ่นล่าสุดอยู่เสมอ

 

ดังนั้น ข้อดีของการเป็นโสดจึงมีไม่น้อย คือ ความเป็นอิสระไม่มีความห่วงกังวล ทำตามใจตัวเองได้เต็มที่ ข้อด้อยจะมีบ้าง คือ เมื่อไม่มีห่วงกังวลถึงใครเลยอาจทำให้ใช้ชีวิตอย่างเสี่ยงเกินไป เช่น ขับรถเร็วเกินไป หรืออาจไม่ดูแลรักษาตัวเองให้ดีในเรื่องสุขภาพ อาจกินง่ายๆ ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจกินอาหารซ้ำๆ ที่สำเร็จรูป เพราะไม่มีคนดูแลเรื่องอาหารการกิน และกินคนเดียวอาจไม่นึกอร่อยจึงมีอะไรก็กินกินไปมื้อๆ หนึ่ง บางคนอาจจะกินนอนไม่เป็นเวลา อาจใช้ชีวิตกลางคืนมากพร้อมกับการใช้เหล้าเบียร์ทำให้เสียสุขภาพ จึงพบมีการรายงานจากงานวิจัยว่า คนที่เป็นโสดโดยเฉพาะผู้ชายมักจะมีอายุสั้นกว่าผู้ชายที่แต่งงาน

 

อย่างไรก็ตามสำหรับคนโสดที่ใช้ชีวิตได้อย่างถูกต้องเหมาะสมดูแลตัวเองดี มีสังคมที่ดี มีการเตรียมเงินทองไว้ดูแลตัวเองยามเจ็บไข้ หรือแก่เฒ่าไม่ให้เดือดร้อนในบั้นปลายของชีวิต ชีวิตโสดเช่นนี้จะมีความสุขได้มากๆ ไม่แพ้คนที่มีครอบครัวที่ดีเช่นกัน

 

จึงรวมความได้ว่า ไม่ว่าจะแต่งงานเพื่อใช้ชีวิตเป็นคู่หรือจะเป็นโสดใช้ชีวิตคนเดียว ถ้าใช้ชีวิตอย่างถูกต้องอย่างเหมาะสมและอย่างฉลาดแล้ว ย่อมสามารถมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่เป็นความสุขคนละแบบเท่านั้นเอง

ข้อมูลจาก : หนังสือติวเข้ม เต็มรัก ชีวิตคู่  โดย: ศ.พญ.นงพงา ลิ้มสุวรรณ คณะแพทย์ศาสตร์ รพ.รามาธิบดี

Copyrights © 2012 | Tel.082-250-9499 | Fax.032-743-100 | E-mail: sales@klonggift.com | Design by Krit DaddyRock